ทำไมต้องเรียนพิเศษตัวต่อตัว ถ้า เรียนแบบกลุ่มประหยัดกว่าไม่ดีกว่าหรือ? Theclasstutor จะแจงแจงทุกข้อสงสัยในบทความนี้กัน
- pararawee
- 3 days ago
- 1 min read

ถ้าจะพูดถึงการเรียนพิเศษตัวต่อตัว มันมีข้อดียังไงแล้วทำไม Theclasstutor ถึงที่เน้นการสอนตัวต่อตัวเท่านั้น
ถ้าจะพูดถึงผลกำไรในการทำธุรกิจเป็นหลักแน่นอนว่าการเปิดค่าสอนนักเรียนเยอะเยอะและเก็บค่าเรียนที่ถูกกว่าย่อมนำมาซึ่งผลกำไรที่สูงขึ้นซึ่งทำให้การเปิดโรงเรียนสอนพิเศษที่มุ่งเน้นผลกำไรย่อมดำเนินไปในแนวทางนี้
แต่กับ Theclasstutor นั้น เราไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อมุ่งหวังผลกำไรสูงสุดเป็นหลัก เรามุ่งหวังผลลัพธ์ที่นักเรียนจะได้จากการมาเรียน ไม่เพียงแต่ผลการสอบหรือคะแนนหรือเกรดที่ดีขึ้น แต่เป็นความมั่นใจ ความสนใจ และจะทำยังไงให้นักเรียนสามารถเรียนต่อไปในระดับที่สูงขึ้นด้วยตนเอง ด้วยแนวความคิดที่ว่าการหาปลาให้กับนักเรียนนักเรียนจะอิ่มแค่เพียงมื้อเดียวแต่ถ้าสอนนักเรียนให้หาปลาเองได้ นักเรียนจะสามารถหาและอิ่มได้ตลอดชีวิต

ที่จริงแล้วนั้นมีผลการวิจัยมากมายเกี่ยวกับการศึกษาแบบตัวต่อตัว ไม่ว่าจะเป็นการมาเรียนกวดวิชาแบบ private ติวเตอร์ หรือแม้จะเป็นการเข้าไปถามคุณครูหลังจากเรียนจบ หรือแม้จะเป็นการถามเพื่อนในห้องเรียนเวลาที่เราไม่เข้าใจ ทุกอย่างเกิดการถกเถียงเรียนรู้และพัฒนาจากคนสู่คน มันมีหลายมิติที่เกิดขึ้นในการเรียนพิเศษตัวต่อตัว
ยกตัวอย่างเช่นการอธิบายด้วยภาษาง่ายง่ายแบบที่เพื่อนสอนเพื่อนหรือพี่สอนน้อง เรียกได้ว่าใช้ภาษาเดียวกัน การทำให้ดูค่อยค่อยแสดงวิธีทำแต่ละขั้นตอน หยุดเมื่อเกิดข้อสงสัยและสอบถามได้ทันที ทุกอย่างจะเป็นการย่อยเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่ายขึ้นนอกจากนั้นยังมีมิติที่ทำให้เกิดความมั่นใจเกิดการให้กำลังใจ เกิดการเรียนรู้และพัฒนาต่อเนื่องเพราะเข้าใจว่าเราเองก็ทำได้เหมือนเพื่อนหรือพี่คนนั้นที่มาอธิบายเรา
นอกจากนี้ยังมีการปรับทัศนคติที่คิดว่าเราเกิดมาไม่เหมาะกับวิชาเหล่านั้นออกไปได้ด้วยเพราะคนทุกคนบางครั้งก็มีความคิดว่าวิชาเหล่านั้นไม่ใช่เราทั้งทั้งที่องค์ความรู้ทั้งหมดเกิดขึ้นบนโลกนี้และทุกคนก็ไม่เคยรู้มันมาก่อนอยู่ที่การปรับทัศนคติถ้าเราเข้าใจว่าตัวเองไม่สามารถเรียนรู้ได้แล้วนั้น อาจจะเริ่มต้นอะไรก็เท่ากับติดลบ

งานวิจัยจาก European Journal of Education Studies ศึกษาประสิทธิภาพของการเรียนรู้ตัวต่อตัวในการเพิ่มประสิทธิภาพในการแก้ปัญหาของวิชาเลข (ซึ่งจริงๆแล้วสามารถประยุกต์ใช้กับวิชาอื่นอื่นๆได้เช่นกัน) การศึกษาเกิดขึ้นในช่วงปี 2021 และ 2022 โดยที่เอานักเรียนเกรด 10 จากโรงเรียน Cebu มีใจความในงานวิจัยว่า การพัฒนาการศึกษาโดยใช้การเรียนรู้แบบ
ตัวต่อตัวหรือมีการถกเถียงในกลุ่มขนาดเล็กจะสามารถช่วยพัฒนาการเรียนรู้ และวัดผลคะแนนที่ได้ว่าสามารถเพิ่มขึ้นได้มากแค่ไหน โดยใช้วิชาแรกเป็นการตรวจสอบลักษณะของปัญหาเกิดจากการใช้ cognitive ability เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเรียนและการแก้ปัญหาโดยมี โจทก์ที่ต้องมีการแปลและต้องมีการทำความเข้าใจที่ค่อนข้างจะซับซ้อน
ในแต่ละขั้นตอนการศึกษานักเรียนมีแนวโน้มที่จะลืมขั้นตอน และวิธีการในการแก้โจทย์ โดยมีการสุ่มนักเรียนแบ่งเป็นเพศชาย 50% และเพศหญิง 50% และมีช่วงอายุระหว่าง 15 ถึง 20 ปี ผลการทดลองแบ่งออกเป็นpretest และ posttest สามารถเทียบได้ในตารางที่สอง

จากตารางจะเห็นได้ว่าคะแนนเฉลี่ยของนักเรียนก่อนที่จะมีการเรียนพิเศษตัวต่อตัวอยู่ที่ 2.10 แต่หลังจากเรียนแล้วน่าตกใจว่า คะแนนสามารถเพิ่มเป็น 4.70 ซึ่งมากกว่าเท่าตัวนอกจากนั้นยังมีค่า standard diviation ที่น้อยลง คือผลที่ได้เกาะกลุ่มมากขึ้นทุกๆคนมีคะแนนที่ค่อนข้างสูงขึ้นทุกคนซึ่งผลการทดลองนี้พัฒนานักเรียนจากกลุ่มที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยไปเป็นกลุ่มที่มากกว่าค่าเฉลี่ยได้
ซึ่งต้องบอกว่าจากประสบการณ์ของการสอนตัวต่อตัวมากกว่า 10 ปีทำให้เราเห็นด้วยกับการวิจัยนี้ เพราะนักเรียนที่มาเรียนพิเศษบางคนเริ่มต้นมาจากคะแนน E และ D หรือแม้กระทั่งนักเรียนบางคนที่ทางโรงเรียนมีคำแนะนำให้ดรอปวิชานั้น
หลังจากที่มาเรียนพิเศษซึ่งทำได้แค่เพียงช่วงเวลาหลังเลิกเรียนหรือวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ กลับทำให้ผลการเรียนดีขึ้นในช่วงระยะเวลาสั้นสั้นช่วงเวลานี้หมายถึง 1-3 เดือน ซึ่งเราพบเคสเหล่านี้เยอะมากและนั่นเป็นกำลังใจให้เรามุ่งหวังและโฟกัสไปที่เรียนการสอนแบบตัวต่อตัวเท่านั้น นักเรียนหลายคนไม่ใช่เพียงแค่คะแนนดีขึ้นแต่กลับมีความมั่นใจและมีความสนใจในวิชาที่เรียนพิเศษมากขึ้น จากเดิมเวลาว่างเคยเล่นแต่เกมส์ตอนนี้ก็แบ่งเวลาบางส่วนในการทำแบบฝึกหัดเพิ่มเติมหรือทำการบ้านทุกข้อด้วยตนเอง

ผลการวิจัยจากตารางที่สาม โดนนำค่ามาเทียบกัน ทำให้เห็นว่ามีการพัฒนาแบบsignificant หรือเป็นนัยยะสำคัญนั่นเองเราเคยเห็นผลแล้วจากนักเรียนที่ข้ามจากเกรด E->B และ C->A* ในระดับIGCSE หรือสูงกว่า

ที่น่าสนใจไปกว่านั้นคือตารางที่สี่ที่พูดถึงการทำแบบสอบถามถึงทัศนคติของผู้เรียนหลังจากที่มีการเพิ่ม session ในการเรียนพิเศษตัวต่อตัวโดยแบ่งเป็น 5 หัวข้อดังนี้
การแก้ปัญหาง่ายขึ้นเมื่อสอนด้วยเพื่อนในห้อง ระดับการพัฒนา effective
การแก้ปัญหากับโจทยที่ซับซ้อนมากๆ ไม่สอนให้เพื่อนในห้อง ระดับการพัฒนา effective
การประชุมกลุ่มเล็กช่วยให้เข้าใจการนำเลขไปใช้กับชีวิตประจำวัน ระดับการพัฒนา highly effective
เวลาแก้ปัญหาไม่ได้จะมองหาเพื่อนช่วย ระดับการพัฒนา highly effective
ความสนใจเพิ่มขึ้นเมื่อเพื่อนสามารถโชว์แก้ปัญหาโจทย์เลขได้บนกระดาน ระดับการพัฒนา highly effective
ในตอนท้ายของการวิจัยผู้วิจัยได้ให้ข้อแนะนำว่าแนะนำให้มีการสอนตัวต่อตัวเพิ่มขึ้นจากการเรียนแบบปกติในวิชาที่มีความซับซ้อนและมีความยากมากเพื่อพัฒนาความรู้ความเข้าใจในบทเรียนและความสามารถในการแสดงออกการช่วยเหลือและการแก้ปัญหาซึ่งส่งผลดีกับทั้งผู้สอนและผู้สอนนอกจากนี้ยังแนะนำให้มีการศึกษา เกี่ยวกับผลในระยะยาวต่อเนื่องกับเด็กกลุ่มนี้ด้วย
อย่างไรก็ตามความสำคัญในการหาครูไม่ใช่เพียงครูที่มีความรู้ที่ถูกต้องเท่านั้น แต่ควรเป็นครูที่มีความเมตตา มีความเข้าใจและมีจริตตรงกันกับนักเรียน คุยในเรื่องเดียวกัน สนใจในเรื่องใกล้เคียงกัน ดูหนังคล้ายๆกันหรือแม้แต่เล่นเกมด้วยกัน
จะหาครูแต่ละคน ให้ตรงจริตกับนักเรียนนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายดังนั้นทางเดอะคลาสติวเตอร์ จึง ต้องขอให้ผู้ปกครองทำแบบสอบถามเพื่อจัดหาครูให้ใกล้เคียงกับสไตล์ของน้องมากที่สุด ทั้งนี้ตลอดระยะเวลาการเรียน น้องน้องยังมีสิทธิ์สามารถที่จะเปลี่ยนครูได้ตลอด เพราะว่าน้องจะเก่งขึ้นได้ไม่จำเป็นต้องเรียนกับครูเพียงท่านเดียวเท่านั้น แต่ครูที่ใช่จะทำให้น้องพัฒนาได้เร็วที่สุด
พัฒนาทั้งผลการเรียนความมั่นใจทัศนคติต่อวิชานั้น เพียงแค่น้องชอบวิชานั้นมากขึ้นใส่ใจในวิชานั้นมากขึ้นตั้งใจเรียนวิชานั้นที่โรงเรียนมากขึ้น ฝึกการบ้านด้วยตนเองมีครูอีกคนที่คอยรับฟังเวลามีปัญหาที่ไม่เข้าใจ ทำการบ้านไม่ได้ หรือปัญหาต่างๆจากห้องเรียน ซึ่งอาจจะมาจากครูและเพื่อนร่วมห้อง ก็อาจจะทำให้ชีวิตของน้องมีความสุขมากขึ้นเมื่อกลับไปที่โรงเรียน
Komentar