ใครว่าเล่นเกมคือเรื่องเสียเวลา ?

ในปัจจุบันนี้ต้องยอมรับว่าเกมนั้นเข้ามามีบทบาทในชีวิตของคนเรามากขึ้นทุกวันนะครับ เมื่อถามว่า ‘เกม คืออะไร?’ หลายคนอาจจะนึกถึงร้านเกม ร้านเน็ตที่มีเด็กวัยรุ่นอยู่รวมกันจนถึงดึกดื่น หรือวัยรุ่นอาจจะนึกถึงสังคมที่เป็นเหมือนเพื่อน ไว้แก้เครียด คลายเหงา เด็กๆหลายคนมักจะชอบเล่นเกมกัน ไม่ว่าจะเล่นด้วยการผ่อนคลาย เล่นเพื่อความสนุก เล่นเพื่อแข่งขันเป็นอาชีพ E-Sport และอีกหลายเหตุผล

เอาตรงๆผมคิดว่าเกมนั้นเปรียบเสมือนดาบสองคมหรือเหรียญสองด้าน หากเราไม่สามารถควบคุมการเล่นให้เหมาะสมมันก็จะเป็นโทษ หากเล่นอย่างไม่แบ่งเวลาก็จะติดงอมแงมและเสียการเรียนได้ แต่ถ้าหากเราเล่นอย่างเข้าใจและถูกวิธี เกมนั้นจะเป็นเครื่องมืออย่างดีที่จะทำให้เด็กนั้นได้เข้าใจ พัฒนาตัวเองและเรียนรู้อะไรต่างๆได้มากมายเลยทีเดียวนะครับ วันนี้เราจะมาพูดถึงการเรียนรู้ของเด็กที่ได้จากการเล่นเกมในมุมมองของแอดกันครับ

1. ได้ฝึกภาษา

การฝึกภาษาเป็นสิ่งที่หลายคนได้จากการเล่นเกมเลยนะครับ บางคนถึงขั้นเทพภาษาไปเลยก็มี แน่นอนครับว่าเกมหลายๆเกมนั้นใช้ภาษาอังกฤษดำเนินเรื่องเป็นส่วนใหญ่ อาจจะมีภาษาญี่ปุ่นบ้างรองลงมาและภาษาอื่นๆเล็กน้อย ซึ่งในการเล่นเกมนั้นหากเราไม่เข้าใจภาษาจะทำให้เราไม่สามารถผ่านเกมนั้นๆได้ การทำเควสหรือภารกิจต่างๆ คุณสมบัติ item ต่างๆ การคุยกับตัวละครในเกม(npc) ถ้าเราเข้าใจภาษา อ่านได้ แปลออก ก็จะทำให้เราเข้าใจว่าภารกิจนี้มีจุดมุ่งหมายคืออะไร ต้องทำยังไงถึงจะผ่าน ไอเทมนี้ใช้ทำอะไร ช่วยเราในภารกิจยังไง เพื่อพยายามจะเข้าใจสิ่งต่างๆในเกม เด็กหลายคนจึงเริ่มค้นหาความหมายของคำศัพท์ต่างๆ ได้ฝึกอ่าน ฝึกแปล ซึ่งนับว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีมากๆในการเรียนรู้ภาษาเลยนะครับ

2. ฝึกความมีเหตุผลและความคิดสร้างสรรค์

เกมบางประเภท เป็นเกมจำลองการใช้ชีวิตของมนุษย์เรา ยกตัวอย่างเกม The Sims ซึ่งเป็นเกมที่เราต้องสร้างตัวละครขึ้นมาตัวหนึ่ง สร้างบ้าน ทำงาน หาเงิน ใช้ชีวิต หากเค้าต้องการเงินเค้าก็ต้องทำงาน หากเค้าหิวต้องทำอาหาร หากไม่เก็บขยะบ้านก็จะสกปรก หากต้องการเลื่อนขั้นในอาชีพก็ต้องฝึกทักษะต่างๆเพิ่มขึ้น ซึ่งทุกอย่างล้วนเป็นเหตุเป็นผลกัน เกมเหล่านี้จะทำให้เด็กได้เข้าใจชีวิตและมีเหตุผลในการทำสิ่งต่างๆมากขึ้น นอกจากนี้ยังได้ฝึกความคิดสร้างสรรค์ในการสร้างชีวิตในเกม รูปร่างหน้าตา ทรงผม รูปแบบการสร้างบ้าน การจัดบ้านอีกด้วย

3. ฝึกการทำงานเป็นทีม

เกมหลายเกมนั้นเล่นได้มากกว่าหนึ่งคน ต้องมีการช่วยเหลือเกื้อกูลกันระหว่างผู้เล่นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเล่นและผ่านด่านต่างๆ หากไม่ช่วยเหลือกันหรือเล่นเพื่อตัวเองมากเกินไปก็จะทำให้ไม่สามารถผ่านด่านต่างๆหรือเอาชนะคู่แข่งได้ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือเกมแนว MOBA หรือเกมแนว FPS แบบทีม ซึ่งนอกจากจะเล่นร่วมกันแล้วยังต้องมีการวางกลยุทธ์ มีการวางหน้าที่ของแต่ละคนอย่างชัดเจนว่าต้องทำอะไร มีการฝึกซ้อม หาแผน หาข้อผิดพลาด ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะทำให้เด็กได้ฝึกการทำงานร่วมกับผู้อื่น มีระเบียบวินัย รู้จักหน้าที่ของตนเองซึ่งสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันในเรื่องอื่นๆได้อีกด้วย

4. ฝึกการเรียนรู้ที่จะอยู่ในสังคมกับผู้อื่น

เกมในปัจจุบันนั้นเป็นเกมที่สามารถเล่นร่วมกับผู้อื่นได้หรือพูดง่ายๆก็คือเป็นเกมที่เล่นอยู่ในระบบออนไลน์นั่นเอง เกมบางรูปแบบเช่น เกมแนว RPG หรือเกมแนว Open world ต่างๆ เป็นเกมที่เราจะท่องไปในโลกกว้าง ฝึกฝน ทำภารกิจต่างๆ ซึ่งในเกมนั้นก็จะมีผู้เล่นคนอื่นอยู่ด้วย ต้องทำภารกิจร่วมกัน ขายของแลกเปลี่ยนเพื่อผลประโยชน์ของทั้งสองฝ่าย มีระบบกลุ่ม,กิลล์ เพื่อทำกิจกรรมร่วมกันเพื่อผลประโยชน์ที่มากขึ้นของทุกคนในกลุ่ม เด็กจะได้เรียนรู้การเข้าหาผู้คน การพบปะผู้คน การสร้างมิตรภาพกับผู้อื่น

5. เป็นคลังความรู้ในเรื่องที่เด็กสนใจ

เด็กหลายคนมักจะได้ความรู้ในเรื่องต่างๆจากเกม ตัวอย่างเช่น เกมกีฬาต่างๆ เกมฟุตบอล FIFA , PES ,เกมบาสเกตบอล NBA 2K ซึ่งเกมเหล่านี้จะทำให้เด็กได้เรียนรู้กีฬาเหล่านี้ในชีวิตจริงมากขึ้น ได้รู้กฏ กติกา การนับคะแนน การซื้อขายผู้เล่น เทคนิคการเล่นต่างๆ เป็นต้น

จากที่กล่าวมาทั้งหมดข้างต้นนั่นคือประโยชน์และสิ่งที่เด็กจะได้เรียนรู้จากการเล่นเกมนะครับ เหนือสิ่งอื่นใดอย่างที่บอกไป เกมเปรียบเสมือนดาบสองคม การเล่นเกมต้องมีขอบเขต เล่นมากเกินไปก็เสียสุขภาพและเสียการเรียน ต้องรู้จักควบคุมการเล่นให้ได้ นอกจากนี้สิ่งสำคัญอีกอย่างก็คือผู้ปกครองที่ต้องคอยดูแลให้ลูกมีมุมมองต่อการเล่นเกมที่เหมาะสม คอยแนะนำคอยให้เหตุผลกับลูก บางครอบครัวผู้ปกครองเล่นเกมด้วยกันกับลูกด้วยเลยก็มียิ่งเป็นการสร้างความสัมพันธ์ในครอบครัวอีกด้วยนะครับ