top of page
  • รูปภาพนักเขียนPararawee

ทำงานไม่ตรงสายกับที่เรียนมาแย่จริงหรอ ?


หลายคนคงเคยได้ยินคำว่า “ทำงานไม่เห็นจะตรงสายกับที่เรียนมาเลย” ซึ่งเป็นคำพูดที่คนจบมาแล้วไม่ได้ทำงานเกี่ยวกับเรื่องที่เรียนมามักจะได้ยินกันมานะครับ วันนี้ทาง Theclasstutor จึงอยากจะมาแชร์มุมมองเกี่ยวกับการทำงานไม่ตรงสายกับที่เรียนมาว่ามันมีมุมมองอะไรที่ดีๆที่ทุกคนสามารถนำไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์กับชีวิตการทำงานในปัจจุบันได้บ้างนะครับ


มาพูดถึงเหตุผลกันก่อนดีกว่า คนเราเนี่ยเรียนปริญญาตรีกันมาส่วนใหญ่ก็ตั้ง 4 ปี ซึ่งถือว่าเป็นเวลาที่ไม่น้อยเหมือนกันนะครับ ในปัจจุบันเนี่ยหากใครหางานในสายที่เรียนมาไม่ได้หรือทักษะฝีมือยังก้าวไปไม่ถึงจุดที่เค้าจะจ้างเราในสาขาที่เรียนมา หากเราอยู่เฉยๆก็คงจะมีแต่ตายครับ ดังนั้นสุดท้ายธรรมชาติจะบีบเราให้พยายามปรับตัวเองให้เข้ากับโลก ปรับสกิลทักษะไปทางด้านอื่นและหาโอกาสใหม่ๆให้ตัวเองครับ หรืออีกเหตุผลที่คนส่วนใหญ่จบมาแล้วทำงานไม่ตรงกับที่เรียนมาก็คงหนีไม่พ้น เรียนแล้วมันไม่ใช่สิ่งที่ชอบ เรียนแล้วไม่มีความสุข เลยเลือกที่จะทำงานอย่างอื่นที่ไม่ตรงกับสายที่เรียนดีกว่า


ในสายตาของหลายคนคงมองว่ามันเสียเวลาที่อุตส่าห์เรียนมาตั้งนาน แต่ในความเป็นจริงแล้วที่เรียนมามันไม่ได้เสียเปล่าหรอกครับ บางทีหลายอย่างจากที่เราเรียนมาเนี่ยก็ยังสามารถนำมาใช้กับการทำงานอย่างอื่นได้ถึงจะไม่ใช่ทั้งหมดก็ตาม การเรียนคือการฝึกสมอง เรียนมายากๆ แม้ไปทำงานที่ไม่ตรงสายแต่กระบวนการคิด แยกแยะ วิเคราะห์ ก็ถูกนำไปปรับใช้แบบอัตโนมัติ เรียกได้ว่าเรียนวิศวะมา เสี้ยววินาทีกว่าเราจะรู้ตัวเรามองภาพแยกส่วนประกอบไปแล้ว เรียนศิลปะมากว่าจะรู้ตัวเราก็แอบมองเส้นโค้งจินตนาการไปแล้ว มันคือการฝึกสมองไปในรูปแบบหนึ่ง ถึงแม้จะทำงานไม่ตรงสายแต่คุณก็ได้ผ่านการใช้สมองมา ยิ่งคนที่ทำกิจกรรมระหว่างเรียนไปด้วยยิ่งได้เปรียบในการทำงานเป็นกลุ่ม การรับฟังความคิดเห็น ศิลปะในการนำเสนอ การวิเคราะห์คนกับปัญหา เป็นต้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการทำงานในทุกสาขาได้หมด แต่แน่นอนครับว่าการทำงานที่ไม่ตรงกับที่เรียนมาเนี่ย อาจจะลำบากในช่วงแรกๆแต่ก็ถือว่าได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆและได้พัฒนาตัวเองในด้านใหม่ๆนะครับ อาจจะได้เจอกลุ่มคนที่ต่างจากที่เคยเจอมา มีแนวคิดที่แตกต่างให้เราได้เรียนรู้เข้าใจ เหมือนเป็นการเปิดมุมมองใหม่ๆให้กับชีวิต ยิ่งกับหลายคนที่ทำงานไม่ตรงกับที่เรียนแต่เลือกทำงานกับสิ่งที่ชอบ พอทำอะไรเกี่ยวกับสิ่งที่ชอบเนี่ยแน่นอนว่ามันสนุกและทำให้เราอยากเรียนรู้และพัฒนาตัวเองมากขึ้นไปอีกครับ


ยิ่งในอนาคตนะครับจะมีอาชีพที่ไม่เคยมีมาก่อนในโลกนี้และเราคิดไม่ถึงว่าจะมีเกิดขึ้นมาอีกมากมายเลยครับ Soft Skill หรือทักษะที่ค่อยๆ พัฒนามาจากการใช้ชีวิต การเข้าสังคมและการทำงาน เช่น การจัดการเวลา ทักษะด้านการปรับตัว ทักษะด้านการสื่อสาร การทำงานเป็นทีม การวิเคราะห์และตัดสินใจ ความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งทักษะพวกนี้เป็นทักษะที่สามารถเอาไปปรับใช้ได้ ไม่ว่าจะทำงานในสายงานไหนก็ตามและจะกลายเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ ผมมองว่าการทำงานไม่ตรงสายกับที่เรียนมันจะเป็นเรื่องปกติมากๆ ลองคิดดูว่าถ้าหากไม่มีปริญญา ไม่มีคณะอีกต่อไป สุดท้ายสิ่งที่สำคัญคือคนเราควรที่จะได้เรียนรู้ทักษะในเรื่องที่เราถนัดและนำไปใช้งานได้จริงๆมากกว่า


สุดท้ายแล้วกล่าวมาถึงตรงนี้ไม่ได้จะบอกว่าคนที่ทำงานตรงสายกับที่เรียนมานั้นไม่ดีนะครับ การได้ทำงานตรงกับสายที่เรียนและมีความสุขกับมันนับว่าเป็นเรื่องที่ดีมากๆเลยครับ แต่กับอีกหลายคนที่เรียนจบมาแล้วได้รู้ว่าสิ่งที่เรียนมาตลอดไม่ใช่สิ่งที่ใช่สำหรับตัวเอง ผมก็หวังว่าบทความนี้จะให้มุมมองที่เป็นประโยชน์และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้บ้างไม่มากก็น้อยนะครับ

ดู 2 ครั้ง0 ความคิดเห็น
bottom of page